จุฬาราชมนตรี-กัณวีร์ แนะรัฐบาลไทยเป็นกลาง ปมอิสราเอล-ปาเลสไตน์
วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์ เรื่อง “เหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์” ระบุว่า สำนักจุฬาราชมนตรี ขอแสตงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของชาวไทยที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และขอให้รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการในการปกป้องให้ความช่วยเหลือต่อประชาชนชาวไทยที่ถูกจับกุมตัวและบางส่วนที่ยังอยู่ในพื้นที่การปะทะอย่างเร่งด่วน ขอเป็นกำลังใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลไทยจะช่วยเหลือประซาชนชาวไทยให้พ้นจากภัยอันตรายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
กลุ่มฮามาสแถลง “ไม่เคยมุ่งเป้าไปที่เด็ก” วอนสื่ออย่าเชื่ออิสราเอล
แรงงานไทยในอิสราเอลขอกลับเพิ่ม ทยอยจัดหาเที่ยวบินพาณิชย์รับ
ผบ.ทอ. ยันรับคนไทยในอิสราเอล ไร้ข้อจำกัด แต่ติดบางประเทศไม่ให้บินผ่าน
สำนักจุฬาราชมนตรี ขอแสดงความเสียใจ ต่อความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งสองฝ่ายจากความรุนแรง และซอเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายยุติความรุนแรงและการสู้รบกัน และมีความจำเป็นที่จะต้องหันหน้าเข้ามาเจรจากันเพื่อคืนความสงบให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยรักษาความเป็นกลางทางการเมืองร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
เพราะความขัดแย้งนี้มีความชับช้อน มีรากเหงาทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนชาวยิว คริสต์และมุสลิมทั่วภูมิภาค ทั้งนี้ สำนักจุฬาราชมนตรีสนับสนุนการแสดงจุดยืนที่ชัตเจนต่อความจำเป็นในการช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่ด้รับผลกระทบ ให้มีความปลอดภัยและให้ได้รับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในสถานการณ์เฉพาะหน้าในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด
สำนักจุฬาราชมนตรี ขอประทานพรจากอัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดให้ความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นได้ยุติลงโดยเร็วและนำสันติภาพและความสงบสุขมาสู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในเร็ววันต่อไป
เช่นเดียวกับ นาย กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม กล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่มีใครอยากเห็นสงครามไม่มีใครอยากเห็นการทะเลาะบอกแว้งกันใหญ่ขนาดนี้จุดยืนของไทยเราต้องชัดเจนว่าไม่เอาสงคราม ไม่ใช้กำลัง และกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และจุดยืนทางการทูตของไทยเราก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยจะต้องเน้นในเรื่องของมนุษยชนและมนุษยธรรม ประเทศไทยต้องมีการให้ความช่วยเหลือต่อผู้ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้นายกัณวีร์ ยังกล่าวว่าตนต้องขอชื่นชมที่รัฐบาลไทยมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ยังมีปัญหาในเรื่องของข้อมูลต่างๆ ที่ยังไม่มีการอัพเดทมากสักเท่าไหร่จำเป็นต้องมีการทำงานทูตเชิงรุกจัดทำฐานข้อมูลประชากรชาวไทย ทั่วโลกทั้งหมดไม่ใช่เพียงอิสราเอล จำเป็นต้องมีการจัดฐานข้อมูลว่ามีชาวไทยอยู่ที่ไหนบ้าง อย่างที่2 ควรให้การช่วยเหลือว่าผู้ที่ได้รับความเสียหายได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างมีแผนอพยพหรือการช่วยเหลืออย่างไร ตอนนี้ตนยังยืนยังชื่นชมรัฐบาลไทยที่วางแผนทุกอย่างเป็นตามกระบวนการ
แต่ต่อจากนี้ควรจะทำงาน ทูตเชิงรุกให้มากขึ้น ในส่วนของรายชื่อชาวไทย เราสามารถทำได้ ติดต่อ สถานทูตในประเทศต่างๆในประเทศไทยรวมไปถึงสถานกงสุลประสานกับกระทรวงต่างประเทศได้ว่าคนไทยขอวีซ่าเข้าประเทศอื่นๆนั้นอยู่ประเทศใดบ้างและ จะทำฐานข้อมูลตรงนั้นขึ้นมา จำเป็น ถ้าเป็นข้อมูลในเรื่องของการดูแลเรื่องความปลอดภัยเวลาไปอยู่ต่างประเทศเวลาเกิดอะไรขึ้นสามารถส่งเป็นเอสเอ็มเอสเข้าไปได้ หรือสามารถใช้แอพพิเคชั่นช่วยเหลือได้ว่ามีคนไทยอยู่ที่ไหน เป็นข้อเสนอให้รัฐบาลไทยสามารถทำได้ ในการรายงานตัวชาวไทยที่อยุ่ในประเทศต่างๆ เหมือนประเทศอื่นๆที่ทำกัน
"กลุ่มฮามาส" หาอาวุธในการถล่มอิสราเอลมาจากไหน?
สภาพอากาศวันนี้ ไทยเจอทั้งฝนทั้งหนาวคำพูดจาก นสล็อตออนไลน์! เตือน กทม.- 44 จว. ฝนตกหนัก
"จุลพันธ์" เผย เงินดิจิทัล 10,000 บาท ต้องลงทะเบียนและยืนยันตัวตนด้วย