นิสสัน ‘เทอร์ร่า สปอร์ต’ ค่าตัว 1.555 ล้าน
นายอิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย เปิดเผยว่า “นิสสัน เทอร์ร่า สปอร์ต จะเป็นอีกทางเลือกให้กับลูกค้าที่มองหาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมที่ครบครัน ด้วย สมรรถนะ และคุณสมบัติเด่นต่างๆ โดยยังให้ความสะดวกสบายและความสุนทรียภาพของการใช้งานและการขับขี่ ด้วยสมรรถนะ ที่มาพร้อมความปลอดภัยขั้นสูงสุดที่ไว้วางใจได้ ที่มีอยู่ใน เทอร์ร่า โดยเสริมด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและภายในที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ทำให้คนที่รักการออกเดินทางไปหาประสบการณ์ใหม่ สามารถใช้เวลาทุกนาทีกับครอบครัว เพื่อนฝูง รวมถึงสัตว์เลี้ยง สมาชิกคนสำคัญ ในทุกการเดินทางได้อย่างประทับใจ เพราะนิสสันมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ มาสร้างประสบการณ์ที่ดีเพื่อคุณ
นิสสัน เทอร์ร่า สปอร์ต มาในรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สะท้อนเอกลักษณ์เอสยูวีเพื่อครอบครัวของนิสสัน เติมความเท่ ทันสมัย ด้วยชุดตกแต่งสไตล์สปอร์ต ได้แก่ กระจังหน้าสีดำ สปอร์ตพรีเมียม, ชุดตกแต่งกันชนหน้า และ กันชนหลังสีดำเงาสไตล์สปอร์ต, แผงกันกระแทกด้านหน้าและหลังสีดำ, ฝาครอบไฟตัดหมอก, กระจกมองข้าง, ราวหลังคา, มือจับประตู, คิ้วตกแต่งซุ้มล้อ และ บันไดข้าง, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, สปอยเลอร์หลัง พร้อมคิ้วและแผงประตูท้ายล้วนแต่ใช้สีดำ, สัญลักษณ์ Sport ด้านหลัง ส่วนห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำสไตล์สปอร์ตพรีเมียมคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง และประหยัดน้ำมัน ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทอร์ร่าสามารถไปได้ในทุกเส้นทาง โดยผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนจากสองล้อ (2H) เป็นโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อได้ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง การควบคุมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape แบบสปอร์ต ได้ปรับปรุงใหม่ให้สามารถควบคุมตัวรถได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัยมากขึ้น
เทคโนโลยีความปลอดภัยสูงสุดเพื่อทุกนิยามของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360° Safety Shield* ทั้งแบบ Active และ Passive เสริมความมั่นใจและให้ความปลอดภัยกับสมาชิกทุกๆคนของครอบครัว อาทิ เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ที่ช่วยประเมินว่ารถมีความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror ซึ่งมีเฉพาะในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ระดับเดียวกัน
เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ด้วยระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bose Premium Audio System ติดตั้งลำโพง 8 ตำแหน่ง และแอมพลิฟายเออร์ รวมถึงการเพิ่มฉนวนเพื่อลดเสียงรบกวน และกระจกบังลมตอนหน้าและกระจกที่ประตูคู่หน้ายังเป็นแบบ Acoustic Glass ทำให้ภายในเงียบ สัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสาร
นอกจากนี้ ระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์จากหน้าจอสัมผัส Display Audio ขนาด 9 นิ้ว และเทคโนโลยี NissanConnect ที่รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay แบบไร้สาย และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Android Auto** ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันระบบนำทาง และแอปพลิเคชันความบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับผู้โดยสารในแถวสอง และสาม ยังสามารถรับชมความบันเทิงผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกแห่งความบันเทิงออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ผ่านช่อง HDMI หรือการเชื่อมต่อแบบสมาร์ตทีวี นอกจากนี้ยังมีช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์และชาร์จไฟแบบ USB (Type A และ Type C) ถึง 5 จุด เพียงพอกับผู้โดยสารทุกคนบนรถที่สามารถชาร์จอุปกรณ์ได้หลายเครื่องในเวลาเดียวกัน มีราคาจำหน่าย 1.555 ล้านบาท มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี.