Search for:
  • Home/
  • Games News/
  • “กติกาใหม่เลือก สว.” เปิดช่องให้ฮั้ว คืนอำนาจชุดเดิมรักษาการณ์

“กติกาใหม่เลือก สว.” เปิดช่องให้ฮั้ว คืนอำนาจชุดเดิมรักษาการณ์

การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดให้ผู้สมัครเลือกกันเองได้ และระบบการเลือกตั้งในครั้งนี้ในมุมมองของใครหลายคนมองว่าซับซ้อนยิ่งกว่าที่ไหนในโลก แต่การเลือกตั้ง สว.นี้จะส่งผลกระทบอย่างไรกับเราบ้าง?

ล่าสุดเวทีเสวนา “เลือก สว.กติกาใหม่ ใครได้ใครเสีย ?” ได้รวบรวมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญหลายคน

ได้แก่ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายรัชพงษ์ แจ่มจิรไชยกุล เจ้าหน้าที่ ILAW และนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา มาร่วมให้ข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

ไทม์ไลน์คัดเลือก สว.ชุดใหม่

ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ข้อมูลไทม์ไลน์คัดเลือก สว.ชุดใหม่ว่า สว.ชุดเก่าหมดจะวาระวันที่ 10 พ.ค.67 จากนั้นเปิดรับสมัคร สว.วันที่ 13 พ.ค.67 ก่อนเข้าสู่การคัดเลือกระดับอำเภอวันที่ 9 มิ.ย.67 คัดเลือกระดับจังหวัด 16 มิ.ย.67 และคัดเลือกระดับประเทศ 26 มิ.ย.67 โดยการคัดเลือกมีการโหวต 6 ครั้งตั้งแต่กลุ่มอาชีพตัวเอง 20 กลุ่มอาชีพ ตั้งแต่ระดับอำเภอจนมาถึงระดับจังหวัด และประเทศ

แต่เรื่องใหญ่อยู่ที่ “การห้ามแนะนำตัวของผู้สมัคร สว.” ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.67 เป็นต้นไป โดยเฉพาะการห้ามแนะนำตัวทางวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน จนกว่าจะมีการประกาศกฤษฎีกามีประกาศบังคับใช้

ทำให้มีคำถามว่าผู้สมัครจะแนะนำตัวในวิธีอื่นอย่างไร จึงต้องมีการตีความว่า ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวได้คือทำก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้

ทำผิดกติกาใหม่มีโทษคุก-ปรับ-ตัดสิทธิ

นอกจากนี้ยังมีการจำกัดการแนะนำตัวของผู้สมัครแค่กระดาษ A4 ไม่เกิน 2 หน้า ซึ่งถือว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดหรือไม่

อีกทั้งการชักชวนให้ประชาชนมาสมัคร สว. ก็ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้หากผู้สมัครคนใดไม่ทำตามที่ กกต.กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 2 หมื่นหรือตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

อย่างไรก็ตามตัวเองเห็นว่า การชักชวนให้ประชาชนมาสมัคร สว.สามารถทำได้ ตราบใดไม่ใช้ทรัพย์สินจูงใจให้สมัคร ดังนั้นการไปสมัครด้วยความตั้งใจถือเป็นสิทธิ์ประชาชนในการชักชวนกันได้เช่นกัน

“2 ก.ค.67” อาจประกาศ สว.ไม่ทัน

ส่วนจำนวนผู้สมัคร สว.ครั้งนี้เชื่อว่าจะอยู่ในระดับหลักแสนคน จากเดิมยุค คสช.อยู่ที่ประมาณ 5.5 หมื่นคน และเมื่อมีผู้สมัครจำนวนมากก็เชื่อว่าจะมีการคัดค้านร้องเรียนตามมาหลายเรื่อง ทำให้วันที่ 2 ก.ค.67 กกต.ไม่น่าจะประกาศรายชื่อได้ทัน

แต่สิ่งหนึ่งที่ กกต.จะดำเนินการทันที คือการคัดเลือกในระดับอำเภอ จังหวัดและประเทศ จะต้องบันทึกภาพและเสียงไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาดูได้เพื่อความโปร่งใส และไม่ให้เกิดความชอบมาพากลในการคัดเลือกตามมา นอกจากนี้ยังควรให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ได้

ขอ กกต.ปรับปรุงระเบียบใหม่

โดย ผศ.ดร.ปริญญา ยังกล่าวอีกว่า ถ้าว่าตามกฎหมายเห็นว่า กกต.ถอยเถอะ และปรับระเบียบส่วนเดิมได้หรือไม่ จากนั้นให้เพิ่มส่วนใหม่เพื่อให้ผู้สมัครรู้จักกันเองได้ โดย กกต.ทำฐานข้อมูลในเว็บไซต์ขึ้นมาก็ได้ หรือจะใช้วิธีการอะไรก็แล้วแต่เพื่อให้ผู้สมัครแนะนำกันได้ เพราะระเบียบ กกต.ควรจะปรับ เพราะเมื่อมีการร้องที่ศาลปกครอง อาจจะมีปัญหาตามมาภายหลัง อีกทั้งในระเบียบนี้ก็ไม่มีพูดถึงการห้ามฮั้วด้วย

ดังนั้น กกต.ควรไปจัดการกับผู้จ่ายเงินให้มาสมัครดีกว่า หากประชาชนมาชักจูงกันที่ไม่ได้จ่ายเงินถือว่าเป็นสิทธิ์ประชาชน เพราะตราบใดไม่ได้เป็นการให้เงินหรือมีผลประโยชน์จูงใจก็ไม่ใช่ความผิดทางอาญา

หนุนเพิ่มนักสังเกตการณ์ในการเลือกตั้ง สว.ใหม่

ในวันประกาศรายชื่อ สว.ชุดใหม่ “วันที่ 2 ก.ค.67” คงยุ่งแน่และไม่สามารถประกาศ สว.ชุดใหม่ได้ เพราะแต่ละพื้นที่สามารถส่งคำร้องคัดค้านตามกฎหมายสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ใน 3 วัน ทำให้จากการโหวตทั้งหมด 6 ครั้ง ถ้าหากมีการทำความผิดตั้งแต่ระดับอำเภอ ก็ทำให้คนที่เข้ามาในระดับจังหวัดก็ต้องผิดไปด้วย ก็อาจต้องไปเริ่มขั้นตอนใหม่หรือไม่

“ถ้ามีคำร้องมาก กกต.จะพิจารณาได้ทัน 2 ก.ค.หรือไม่ กกต.ก็ต้องทำให้ทุกอย่างโปร่งใสโดยเพิ่มผู้สังเกตการณ์คัดเลือก สว.เข้าไปโดยให้ กกต.ออกระเบียบมา อาทิ กลุ่มผู้สังเกตการณ์จากสื่อมวลชนที่สมาคมนักข่าวฯรับรอง รวมถึงการบันทึกเทปก็ต้องเป็นสาธารณะ และเมื่อมีการร้องข้อก็ต้องเปิดดูได้ หรือสามารถขึ้นเว็บไซต์ได้เลยไม่ว่าจะเป็นอำเภอไหนเพื่อให้มีความโปร่งใสเข้ามาแทนความไม่ชอบมาพากล เหมือนการมีกล้องหน้ารถ”

ส่วนเรื่องระเบียบ กกต.ควรทำให้ง่าย เพราะหากเขียนรายละเอียดหยุมหยิมมากมาย ก็ทำให้การร้องเรียนมีจำนวนมากตามมา จนทำให้การประกาศรายชื่อล่าช้าจากผู้สมัครที่มีจำนวนหลักแสนคน

ไม่เช่นนั้นอาจเกิดข้อกังขาว่า กกต.จะทำทันหรือไม่ และที่ทำแบบนี้เพราะอยากให้ สว.ชุดเก่ารักษาการณ์ไปโดยไม่มีกรอบเวลาชั่วนิรันดร์ จนกว่าจะมี สว.ชุดใหม่เข้ามาหรือเปล่า

“ไอลอว์” มองระเบียบใหม่คลุมเครือ

นายรัชพงษ์ แจ่มจิรไชยกุล เจ้าหน้าที่ ILAW กล่าวว่า กรณีการร้องศาลปกครองมีการฟ้องระเบียบ กกต.ไม่ชอบด้วย พรป.เลือก สว.และรัฐธรรมนูญ แต่ระเบียบนี้เป็นโอกาสให้มีการฮั้วอย่างมาก หรือกรณีขั้นตอนการแนะนำตัวด้วยกัน ผู้สมัครจะรู้ได้อย่างไรว่าใครจะสมัครหรือไม่ ยังไม่นับการเลือกไขว้กัน ยกตัวอย่าง ถ้าผู้สมัครมีอาชีพศิลปินและข้าราชการ จะทำให้ผู้สมัครรู้จักกันหรือไม่ ดังนั้นยิ่งระเบียบคลุมเครือก็ทำให้ประชาชนไม่อยากมีส่วนร่วมในการเลือกครั้งนี้

“ไอลอว์พยายามจำลองขั้นตอนการเลือกออกมาก็พบว่า หากคนที่มีอิทธิพลก็สามารถพาคนไปคัดเลือกได้ หรือต้องเป็นคนมีชื่อเสียงก็จะมีโอกาสที่คัดเลือกเข้าไปได้ หรือต้องเป็นคนถูกคัดเลือกได้ก็ต้องเป็นคนที่ดวงดีมากๆ”

เปิดเว็บไซต์ช่วยตรวจคุณสมบัติสมัคร สว.

นายรัชพงษ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาไอลอว์เปิดเว็บไซต์ http://senate67.com เพื่อให้ผู้สนใจว่าตรวจสอบข้อมูลว่ามีคุณสมบัติในการสมัคร สว.หรือไม่ นอกจากนี้จะพยายามแก้ไขการฮั้วเพื่อให้คนไม่มีพวกที่จะชนะได้หรือไม่ จึงมีเว็บไซต์ขึ้นมาให้คนมาประกาศตัวได้ว่าตัวเองเป็นใครทั้งในกลุ่มตัวเองและกลุ่มอื่น โดยใช้คุณสมบัติตัวเองเข้าสู้กับการจัดตั้งกันมาคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“เรื่องเว็บไซต์เราไม่ได้คิดคนเดียว เพราะเคยไปนั่งอ่านรายงานการประชุมของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ชุดนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ก็พบว่าในกรรมาธิการยกร่างชุดนี้ ก็คิดตรงกันว่าให้มีเว็ปไซต์สำหรับให้ผู้สมัคร สว.มาประกาศตัวกันได้ด้วย เพื่อให้ประชาชนรับทราบและให้ผู้สมัครได้รู้จักกัน”

รอดูคำสั่งศาลปกครองเรื่องระเบียบ กกต.

นายรัชพงษ์ กล่าวต่อว่า ไอลอว์พยายามศึกษาระเบียบ กกต.และตีความเพื่อไม่ให้เกิดความคุมเครือว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ แต่หากศาลปกครองยกคำร้องทางไอลอว์ก็จะทำในสิ่งที่เราทำได้ สมมติระเบียบ กกต.ฉบับนี้ยังอยู่ ก็ต้องมาตีความว่ามีสิ่งใดที่ระเบียบไม่ได้บอกไว้ ดังนั้นถ้าไม่มีอะไรห้ามไว้ก็ย่อมทำได้

แต่หากดูระเบียบแนะนำตัวพบว่า ด้านแรกเป็นเนื้อหาว่าทำอย่างไรได้บ้างก็พบว่า จะแนะนำตัวได้อย่างเดียว แต่จะหาเสียงไม่ได้ ซึ่ง กกต.บอกว่าการหาเสียงคือการสัญญาว่าจะให้ซึ่งเป็นเรื่องอนาคต ส่วนการแนะนำตัวเป็นเรื่องของอดีตที่เคยทำมา

จับตากระบวนการ “ฮั้ว”

นายรัชพงษ์ กล่าวว่า กกต.บอกว่าแนะนำตัวให้ผู้สมัครกันเองอย่างเดียวเท่านั้น ก็มีคำถามว่าแล้วผู้สมัครจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นผู้สมัครบ้างในแต่ละอำเภอ ก็จะเป็นการสนับสนุนให้ผู้สมัครที่รู้จักกันนำไปสู่การฮั้วกันหรือไม่ ทั้งที่ควรให้มีการแนะนำตัวสาธารณะ แล้วผู้สมัครจะไปชนะคนที่ฮั้วกันได้อย่างไร

ดังนั้นเป็นเรื่องยาก ถ้าไปสมัครเยอะกระจายตัวทุกกลุ่ม ถ้าต้องทำให้เกมนี้ออกมามีประชาชนในสมการมากที่สุด ก็ต้องทำให้คล้ายการเลือกตั้งมากที่สุด โดยต้องไปสมัครเพื่อไปไม่ว่าจะประสงค์เพื่อโหวตเท่านั้น

นายรัชพงษ์ กล่าวด้วยว่า ถ้ามีผู้สังเกตการณ์เข้าไปจะถือว่าเป็นเรื่องดี ให้นึกว่าไปช่วย กกต.ทำงาน เพื่อไม่ให้มีการทักท้วงในภายหลังเพื่อเพิ่มความโปร่งใส จึงขอให้ กกต.ชัดเจนในส่วนนี้ด้วย

รับรองก่อน-สอยภายหลัง

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า ในกรรมาธิการที่ตนเป็นประธาน ก็มีการพูดกันมาตลอดว่า การได้ของ สว.ชุดใหม่อยากเห็นแบบสุจริตและสำเร็จโดยเร็ว ส่วนการทำหน้าที่รักษาการณ์ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าให้เกิดขึ้น โดยเข้าใจว่า กกต.จะรับรองก่อนแล้วไปสอยที่หลัง เพราะต้องมี สว.ชุดใหม่มาทำหน้าที่ แต่ขอว่าอย่ามีการรณรงค์อย่างเดียวว่าจะไปแก้รัฐธรรมนูญ เพราะคนเป็น สว.ต้องอิสระเป็นตัวของตัวเอง และอย่าไปทำในสิ่งไม่ดี ซึ่งตัวเองยึดแบบนี้มาตลอด

“การได้มา สว.ชุดใหม่อาจยุ่งยากซับซ้อน แต่อยู่ในวิสัยที่จะวิจารณ์ หากเห็นช่องโหว่ก็ต้องแจ้งกกตคำพูดจาก Slots777. โดยกกต.ก็ต้องใจกว้างและปรับปรุงหากคิดว่าถูกต้อง เพื่อให้การคัดเลือก สว.ลุล่วงไปด้วยดี”

คาดสมัครไม่ถึงหลักแสนคน

นายเสรี กล่าวด้วยว่า จากค่าสมัคร สว.จำนวน 2,500 บาท จึงไม่คิดว่าจะมีผู้มาสมัครเป็นจำนวนมากถึงหลักแสน ส่วนคนมีเงินก็คิดว่าไม่อยากลงสมัครเพราะกลัวถูกร้องเรียน ก็ทำให้แต่ละอำเภอและสาขาอาชีพอาจจะไม่ครบ แต่จะมีผู้สมัครจำนวนมากคือมีพวกตัวเองเยอะก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้รอบแรก พอมาถึงการเลือกไขว้ก็คิดว่าคนที่จะเสียเงินไปสมัครเพื่อเลือกคนอื่นอาจจะได้เลือกเพียงรอบเดียว

สว.ชุดเก่าหมดอำนาจเลือกนายกฯ

กรณีหากสมมุติเกิด กกต.ไม่สามารถประกาศรายชื่อ สว.ชุดใหม่เสร็จทันวันที่ 2 ก.ค.67 ได้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ให้อำนาจ สว.โหวตนายกฯ ได้ถึงวันที่ 10 พ.ค.67 จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญว่า สว.รักษาการณ์จะมีอำนาจในการโหวตนายกฯ

นายเสรี ได้กล่าวว่า ถ้าดูตามตัวอักษรก็กำหนดชัดเจนว่าการเลือกนายกฯ ของสว.ชุดเดิมจะมีอำนาจแค่ 5 ปี ดังนั้น สว.ไม่มีอำนาจแล้ว แต่จะมีใครไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญว่า สว.มีอำนาจหรือไม่ ก็มีแต่การพูดกัน และตัวเองไม่รู้ว่าใครจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตรงนี้

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของการเลือกตั้ง สว.ในรูปแบบใหม่ ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น คงจะต้องรอติดตามกันต่อไป